ต้องฟันขาวถึงจะสวย ดูสะอาดสะอ้าน แต่ในความเป็นจริงแล้วสีของฟันตามธรรมชาติของเรานั้น ไม่ได้ขาวชัดแบบฟันของเด็กๆ ที่ยังเป็นฟันน้ำนม หรือขาวเหมือนฟันที่ผ่านการฟอกสีฟัน นอกจากจะมีสีหม่นๆ ในเฉดสีที่ต่างกันตามธรรมชาติของแต่ละคนแล้ว สีฟันของเรายังมีตั้งแต่เหลืองๆ จนเข้มยิ่งไปกว่านั้น
ฟันของคนเรามีกี่สี
ฟันแท้ไม่ได้มีสีขาวแบบฟันน้ำนม แต่ฟันของแต่ละคนก็ยังมีความแตกต่างกัน ซึ่งสามารถเฉดสีตามเครื่องมือที่ใช้วัดสีฟันทั่วไปได้ 4 เฉดสี ซึ่งในแต่ละเฉดสีก็จะเริ่มต้นที่ขาวขุ่นๆ แล้วค่อยๆ เข้มขึ้นจนปรากฏความแตกต่างกันเมื่อเข้มสุด ตามเฉดสีเหล่านี้ คือ
- 1. เฉดสีน้ำตาลอมแดง
- 2. เฉดสีเหลืองอมแดง
- 3. เฉดสีเทา
- 4. เฉดสีเทาอมแดง
ซึ่งเครื่องมือวัดสีฟันนี้ จะช่วยให้คนไข้สามารถคาดการณ์ได้ว่า หลังจากฟอกสีฟันแล้ว ตนเองจะมีสีฟันขาวขึ้นในระดับไหน ซึ่งจะอยู่ในแถวเฉดสีเดียวกับฟันดั้งเดิมก่อนฟอกสีฟันนั่นเอง
อะไรมีผลต่อสีของฟันบ้าง
- สีของเนื้อฟันของแต่ละคน เรื่องนี้เป็นเหตุผลแรกที่ทำให้สีของฟันแตกต่างกันไปในแต่ละคน ซึ่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสีเกิดขึ้น ความเข้มขึ้นจะยิ่งเพิ่มความต่างจนเห็นได้ชัด ตามเฉดสีเดิม
- การสึกของเคลือบฟันเนื่องจากการใช้งาน ผ่านกาลเวลาไป เพราะเมื่อเคลือบฟันเริ่มสึกมากขึ้น ความบางลงของเคลือบฟันจะทำให้เห็นสีของเนื้อฟันชัดขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดจากความชอบอาหารรสเปรี้ยวมากๆ หรือการใช้งานของฟันตามระยะเวลา วัยที่มากขึ้น ซึ่งสีของฟันที่เปลี่ยนไปตามวัยต้องพบเจอทุกคน ส่วนจะมากน้อยต่างกันแค่ไหนขึ้นอยู่กับการดูแลและสุขภาพฟันดั้งเดิม
- สีของฟันเปลี่ยนไปเนื่องจากคราบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคราบที่เกิดจากตัวฟันหรือคราบที่เกิดขึ้นระหว่างเนื้อฟันกับเคลือบฟัน สาเหตุนี้มักเกิดกับเด็กๆ ช่วงระหว่างที่มีการเปลี่ยนจากฟันน้ำนมเป็นฟันแท้เป็นส่วนใหญ่ อาจเกิดจากการได้รับยาปฏิชีวนะ เช่น เตตร้าไวคลิน ที่ระบุชัดว่า ส่งผลทำให้ฟันมีสีเปลี่ยนไป บางคนได้รับมาก สีฟันอาจเปลี่ยนเป็นมีดำๆ เลย
- สีฟันเปลี่ยนเนื่องจากได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปก็มี บางครั้งจากความเชื่อผิดๆ ว่าฟลูออไรด์ช่วยปกป้องฟันของเราไม่ให้ผุ ทำให้คนเราหาวิธีที่จะรับฟลูออไรด์แบบผิดๆ จนทำให้เกิดผลข้างเคียง คือมีจุดสีน้ำตาลปนขาวเกิดขึ้นบนฟัน บางทีก็เรียกว่าฟันตกกระ
- ฟันเปลี่ยนสีเนื่องจากคราบที่เกิดขึ้นที่ภายนอก ข้อนี้เห็นชัดในคนที่สูบบุหรี่ หรือชอบดื่มเครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟ ไวน์แดง หรือกินอาหารที่มีสีจัดและติดที่ฟันได้ เช่นแกงต่างๆ ซึ่งในเรื่องของคราบนั้น ทำให้ฟันมีสีแตกต่างกัน เช่น สีน้ำตาลเกิดจากการแปรงฟันไม่สะอาดพอ คนสูบบุหรี่จะมีฟันสีดำๆ เพราะคราบนิโคตินที่มาติดตามผิวเคลือบฟันบ้าง ตามร่องฟันบ้าง
- สีฟันเปลี่ยนเนื่องจากการดูแลฟันไม่ดี ทำให้มีคราบต่างๆ อีกทั้งยังขาดการใส่ใจเรื่องขูดหินปูนตามช่วงเวลาที่เหมาะสมก็ทำให้เป็นคราบติดทนนาน คราบอาหาร แบคทีเรีย และหินปูน เกาะติดสะสมตามซอกฟัน กระทั่งเห็นเป็นสีเหลือง น้ำตาล หรือดำ สามารถรักษาด้วยการขูดหินปูน
- การแปรงฟันผิดวิธี ทำให้ฟันไม่สะอาด เมื่อสะสมแบคทีเรียมากขึ้น การออกแรงในการแปรงฟันมากเกินไป การใช้ขนแปรงที่แข็งมาก สาเหตุทั้งหลายเหล่านี้ มีส่วนทำลายฟัน และส่งผลทำให้สีของฟันเปลี่ยนไปได้
8. สีฟันเปลี่ยนเนื่องจากมีสภาวะฟันผุ ข้อนี้เห็นสีฟันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสีของฟันเป็นข้อสังเกตเบื้องต้นว่า เมื่อเห็นสีฟันเปลี่ยนไป ไม่ต้องรอให้เกิดอาการปวดฟันก่อน ต้องรีบไปหาทันตแพทย์เพราะสีที่เปลี่ยนมีแนวโน้มว่าฟันน่าจะผุแล้ว - ขั้นกว่าของฟันผุ คือ ฟันตาย ถ้าฟันของคุณไม่มีประสาทฟันเสียแล้ว เลือดที่มาหล่อเลี้ยงก็ไม่มี ฟันจะเปลี่ยนเป็นสีดำๆ
การแก้ไขเมื่อสีของฟันเปลี่ยนไป
เมื่อสีของฟันเปลี่ยนไป เราสามารถแก้ไขได้ตามแต่สาเหตุที่ทำให้มีการเปลี่ยนสี เช่น
- อุดฟันในกรณีที่สีฟันเปลี่ยนเพราะฟันผุ
- ขูดหินปูน เพื่อขจัดคราบที่ติดบนเคลือบฟันและตามซอกฟัน
- ทำการฟอกสีฟัน เพื่อทำให้ฟันขาวมากขึ้นซึ่งจะเปลี่ยนได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับสุขภาพฟัน บางคนเปลี่ยนได้เพียง 2-3 เฉดสี แต่บางคนเปลี่ยนได้มากถึง 9 เฉดก็มี แต่ระดับฟันที่เปลี่ยนไปก็ขึ้นอยู่กับเฉดสีดั้งเดิมด้วย
สีของฟันเปลี่ยนได้จากหลายสาเหตุรอบตัวตั้งแต่เล็กจนโต ทางที่ดีที่สุดที่จะปกป้องฟันไม่ให้เปลี่ยนสีไปจึงขึ้นอยู่กับการป้องกันตั้งแต่เยาว์วัย ใส่ใจตั้งแต่เป็นฟันน้ำนม ดูแลสุขภาพฟันให้สะอาดแข็งแรง ถูกวิธี งดกินอาหารที่มีผลทำลายฟัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มีสีจัดๆ อาหารรสเปรี้ยว เครื่องดื่มชา กาแฟ ไวน์แดง และพบทันตแพทย์ตรวจฟันทุก 6 เดือน ขูดหินปูน ไม่ปล่อยให้ฟันผุจนเปลี่ยนสี เพราะแก้ไขได้ทันท่วงที เพราะถ้าปล่อยให้ฟันเปลี่ยนสีแล้ว แม้การฟอกสีฟันจะช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้ แต่ก็ยังไม่ใช่ทางแก้ไขที่อยู่ได้ถาวร